ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

เราวิ่งตามความ productive มากเกินไปรึเปล่า

 ทุกวันนี้เราวิ่งตามความ productive มากเกินไปรึเปล่า

ต้องฟัง podcast ทุกวัน ต้องอ่านหนังสือสัปดาห์ละ 1 เล่ม เหล่านี้อาจจะเป็นบางส่วนของเป้าหมายส่วนตัวของใครหลายๆคน รวมทั้งตัวผมเองด้วย ถึงกับต้องมีแอพฯ ติดตามพฤติกรรมประจำวันว่าแต่ละวันบรรลุเป้าหมายอะไรไปแล้วบ้าง แรกๆก็สนุกดีนะ หลังๆมาเหมือนตัวเองเป็นเครื่องจักรมากเกินไป ก็เลยลดทอนบางกิจกรรม บางเป้าหมายลงบ้างเพื่อไม่ให้ตัวเองเครียดจนเกินไป

ยุคนี้การติดตามความก้าวหน้า อัพเดทชีวิตเพื่อนๆสามารถทำได้โดยง่ายใน social media เราอาจะเห็นความสำเร็จของคนโน้นอายุ 25 มีบ้าน เพื่อนอีกคนอายุ 30 มีรถ เลี้ยงพ่อแม่ มีบริษัทเป็นของตัวเอง ซึ่งเอาจริงๆมันก็ toxic ต่อความคิดเรา

แต่อย่าลืมว่า "ชีวิตใคร ชีวิตมัน" 

แต่ละคนล้วนแต่วิ่งมาราธอนในลู่วิ่งของตัวเอง ไม่มีทางรู้เลยว่ากว่าใครจะมาถึงจุดสำเร็จแต่ละจุดนั้น เขาผ่านความยากลำบากอะไรบ้าง

มีช่วงเวลาที่ดีๆ และช่วงเวลาที่แย่ๆ เสมอ

"บางทีเราไม่ต้องได้ทุกอย่างที่เราต้องการก็ได้"




 

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

Outing แบบใดที่คุณต้องการ

กิจกรรม outing ของบริษัท ถือเป็นส่วนหนึ่งของสวัสดิการที่ให้กับพนักงาน แต่โดยส่วนตัวแล้วแต่วัฒนธรรมองค์กร ความเข้ากันได้ของทีมงาน เป็นส่วนสำคัญที่จะทำให้รู้สึกร่วมหรือเอ็นจอยด้วย ด้วยความที่ (น่าจะ) เป็นคน introvert มั้ง ก็เลยไม่ค่อยชอบการเป็นฝ่ายเริ่มสร้างปฏิสัมพันธ์กับคนอื่นก่อน จึงไม่ค่อยอยากมีส่วนร่วมซักเท่าไหร่ อีกอย่างคือเหนื่อยใจ ใช้พลังงานสูง แต่ถ้าได้รู้จักกันมากขึ้น เปิดใจกันมากขึ้น จะรู้สึกสบายใจ และยินดีที่ได้อยู่ตรงนั้น ใช้เวลาช่วงนั้นให้ดีที่สุด ดังนั้นแล้ว ในยุคนี้ สวัสดิการของพนักงานบริษัท อาจจะแปรเปลี่ยนไปตามเวลา จากยกบริษัทไปเที่ยวในประเทศ หรือต่างประเทศ อาจจะพ่วงกิจกรรมสังสรรค์ สัมนา กิน ดื่ม หรือเน้นเที่ยวอย่างเดียว ทั้งเที่ยวตามทัวร์ หรือเที่ยวตามใจ อาจจะไม่โดนใจคนทุกคน บริษัทอาจจะปรับเปลี่ยนรูปแบบมาเป็นแพคเกจเที่ยวตามใจ ให้พนักงานเลือกได้เอง อาจจะไปเที่ยวแค่คนเดียว หรือรวมทีม รวมคนที่สนิทใจในบริษัท อาจจะแผนกเดียวกัน หรือข้ามแผนก ไปเขียนแพลนเที่ยวมาเสนอบริษัท ให้อนุมัติงบตามสมควร เกินจากนั้นจ่ายเอง แบบนี้อาจจะตอบโจทย์ความต้องการมากกว่า ไม่นับรวมไลฟ์สไตล์การทำงานที่เ...